สตง. ตรวจพบพิรุธโครงการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ขนาดเบา 16 ลำ และโครงการซ่อมบำรุงเฮลิคอปเตอร์วงเงิน 3,00 ล้านบาท ของกองทัพบกเข้าข่ายฮั้วประมูล ทำผิดสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง กรรมาธิการทหารฯเรียกเอกสารศึกษา แต่กองทัพอ้างมีคดีอยู่ในศาลปกครอง ให้ไม่ได้ กลัวละเมิดอำนาจศาล
วันที่ 8 ก.ค. 2553 ที่รัฐสภา พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยหลังการประชุมเพื่อพิจารณาโครงการจัดหาอากาศยานฝึกเฮลิคอปเตอร์ขนาดเบา 16 ลำ และโครงการซ่อมบำรุงเฮลิคอปเตอร์แบบใช้งานทั่วไป ซึ่งคณะกรรมาธิการได้ร้องขอเอกสารจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แต่ได้รับแจ้งว่าไม่สามารถส่งให้ได้เพราะเอกสารดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง
พ.ต.ท.สมชายกล่าวว่า กองทัพอ้างว่าหากให้เอกสารกับคณะกรรมาธิการตอนนี้จะเป็นการละเมิดอำนาจศาลปกครอง ขณะที่นายพิศิษฐ์ ลีลาวัชโรภาส รองผู้ว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ข้อมูลว่า สตง. ได้ติติงกองทัพบกว่าพบพิรุธหลายประการในการจัดซื้อจัดจ้างเฮลิคอปเตอร์ 16 ลำ วงเงิน 35 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยเฉพาะบริษัทที่ชนะการประมูลน่าสงสัยว่ามีการฮั้วกันหรือไม่ คณะกรรมาธิการจึงขอเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างจาก สตง. มาศึกษา ซึ่งตัวแทน สตง. รับปากว่าจะส่งมาให้
“ตามหนังสือสัญญาบริษัทต้องฝึกนักบิน 70 คน รวมถึงถ่ายทอดเทคโนโลยีพร้อมการบำรุงรักษาเครื่อง แต่ในทางปฏิบัติกลับมีการฝึกนักบินเพียงแค่คนเดียวแล้วให้มาถ่ายทอดความรู้กันเองอีกทอดหนึ่ง ที่สำคัญในการฝึกแทนที่จะเป็นการฝึกบินเชิงยุทธการ แต่กลับเป็นการฝึกบินเชิงพาณิชย์เท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่ตรงวัตถุประสงค์ ทำให้กำลังพลของกองทัพไม่มีประสิทธิภาพ”
http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=7215
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น