วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

“มาร์ค 100 ศพ”

เป็นไปตามที่วาดไว้เมื่อรัฐบาล “มาร์ค 100 ศพ” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินหน้าต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะนายกฯพูดในที่ประชุม ครม. ว่าต้องคงไว้เพราะกลัวว่าคนเสื้อแดงจะฟื้นตัวเร็ว

*** นี่หรือคำกล่าวของคนเป็นผู้นำประเทศที่ไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองต่างหากที่ผลักดันให้เขาเหล่านั้นเกิดความเกลียดชังจนตัวเองไปไหนมาไหนต้องมีคนคอยอารักขามากกว่า 100 คนแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

*** ชัดเสียยิ่งกว่าชัดเมื่อ “มาร์ค เอเอฟ 7” วิทวัส ท้าวคำลือ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัววิพากษ์วิจารณ์โจมตี “มาร์ค 100 ศพ” ที่สั่งสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ส่งผลให้มีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากอย่างชัดถ้อยชัดคำที่สุด แล้วนายจะว่าอย่างไรเนี่ย “มาร์ค”

*** ส่วนรายนี้ยิ่งอยู่นานยิ่งเสื่อมจนจะกลายเป็นโรคอัลไซเมอร์เข้าไปทุกทีเพราะวัยใกล้แซยิด ตั้งแต่ครั้งออกมาบอกว่ารัฐบาลสมัครไม่เคยใช้ทหาร เห็นคำสั่งอยู่ทนโท่แต่ก็แกล้งไม่รู้เรื่องในบางขณะได้ นี่แหละคนอย่าง “ป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ลืมเฉพาะเรื่องที่จะทำให้ตัวเองหลุดจากเก้าอี้ และที่น่าเสียใจคือขังลืมผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่เป็นคนไทยด้วยกัน

*** แต่เก้าอี้เพื่อนรักอย่าง พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. ว่ากันว่าใกล้หลุดเต็มที เพราะดันทำให้เพื่อน “ป๊อก” เคืองจากการไม่ยอมรับการใช้กำลังสลายประชาชน นี่หรือทหารไทยที่ชอบใช้แต่กำลัง

*** ส่วนรายนี้บ้าอำนาจหนักขึ้นเรื่อยๆ สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. ไม่รู้เป็นอะไรให้ ศอฉ. เรียก “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย มาให้ปากคำ โดยบอกว่าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ หากเจ้าหน้าที่เห็นว่านายพร้อมพงศ์พูดจามีเจตนาทำให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมืองก็เข้าข่ายผิดกฎหมาย จะดำเนินคดีกับนายพร้อมพงศ์ ไม่ลองหันไปดูปากตัวเองหน่อยหรือไงครับว่าวันๆพูดความจริงกี่ประโยคกัน

*** ไม่น่าสงสารเท่าไร เพราะวันนี้ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อ้อนกลางวงประชุมงบประมาณว่าดีเอสไอจะทำหน้าที่เป็นคนกลางให้ดีที่สุด แล้วพฤติกรรมที่ผ่านมาเป็นอย่างไรครับท่าน

*** นี่ก็เสียงดังฟังชัด พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พูดชัดเลยว่าอยากเป็น ผบ.ตร. จนตัวสั่น ไม่อายเลยว่าอยากได้ใคร่ดี ดังนั้น ใครมาเป็นนายเรียกใช้ผมได้ครับ นี่หรือตำรวจไทย

*** ส่วนเรื่องการจับผู้ต้องหา “อ้อ” หรือนางวริศรียา บุญสม และ “อ้าย” นายกอบชัย บุญปลอด ในคดีวางระเบิดพรรคภูมิใจไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบคดีดังกล่าวให้ดีเอสไอไปแล้ว ไปถามนายธาริต เพ็งดิษฐ์ จะดีกว่า เรื่องนี้ตำรวจไม่มีอำนาจสอบสวนอีกแล้วเพราะโยนขี้ออกไปแล้วจ้า

http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=7259

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น